การเมืองในประเทศไทย สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์การเมือง พ.ศ.2556 - 2557 ซึ่งมีการชุมนุมทั้งฝ่ายต่อตัานและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล มาจนถึงการทำรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 และมีการประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 สิ้นสุดลง ทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การพัฒนาประเทศภายใต้รัฐบาลทหารซึ่งมีการระดมผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาช่วยดำเนินงาน (เช่น คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 194/2560 เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการชับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0) ซึ่งในด้านการร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น รัฐธรรมนูญ ฉบับถาวร ปี 2560 ถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศฉบับที่ 20 ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 และคาดว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นในราวปี 2561 หรือ 2562 ซึ่งอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจะมีการส่งต่อไปยังรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต่อไป
Future Challenge
ในปี 2560 การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศต่างๆ เช่น
- การขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นการพลิกโผและเกิดความวุ่นวายตามมาอย่างมาก ทั้งการชุมนุมต่อต้านตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์เอง และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ (America First ที่ชูนโยบายปกป้องทางการค้า) อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของนโยบายของทรัมป์ต่อประเทศไทยโดยตรง ในด้านเศรษฐกิจ มีทั้งทางบวกและลบ (ในระดับต่ำ)
ผลกระทบในด้านบวกไทยได้รับประโยชน์โดยตรงจากการยกเลิกการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) ที่เคยริเริ่มไว้ในสมัยของโอบามา ซึ่งเดิมคู่แข่งของไทยทั้งมาเลเซียและเวียดนามได้เข้าร่วมอยู่ในโต๊ะเจรจา โดยที่ไทยไม่ได้เข้าร่วม ดังนั้น เมื่อมีการยกเลิก TPP แล้ว ความเสียเปรียบทางการค้าของไทยจากข้อตกลง TPP จึงเป็นอันยุติลง
ผลกระทบในด้านลบที่อาจเกิดกับไทย มาจากนโยบายปกป้องการค้าภายในประเทศ และกีดกันทางการค้ากับต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศคู่ค้ากับสหรัฐฯ อย่างจีน หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีสินค้าจากจีน 45% จะทำให้จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯลดลง 1.7 ล้านล้านบาท หรือ 11.4% ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้มูลค่าส่งออกของไทยไปสหรัฐฯลดลงรวม 39,200 ล้านบาท หรือลดลง 4.9%
- การขึ้นเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสของนายเอมานูเอล มาครง จากการเป็นผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดและเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ด้วยวัย 39 ปี ซึ่งสนับสนุนระบบการค้าเสรี ปฏิรูประบบบำนาญของฝรั่งเศส ไม่อุ้มภาคธุรกิจที่ประสบปัญหาทางการเงิน แต่เน้นการให้การศึกษาและฝึกอบรมส่วนประเทศอิตาลีคาดว่าจะมีการเลือกตั้งภายในพฤษภาคม 2561 ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหภาพยุโรป
สำหรับประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครบรอบ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 นั้น มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงต่อต้านโดยที่คสช.ได้ประกาศโรดแมปเลือกตั้งและมีการเลื่อนออกไป ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560
สำหรับผลงานเด่นในรอบ 3 ปีได้แก่ การคืนความสงบสุขให้กับประชาชน การทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่า 3.5 แสนไร่ การคืนที่ทำกินให้กับประชาชน การจัดระเบียบสังคม การจราจร การจับกุมอาวุธสงคราม ยาเสพติดและความคืบหน้ากรณีทุจริตคอร์รัปชั่น การแก้ไขข้อปัญหาที่มาจากข้อร้องเรียนของประชาชนหลายหมื่นเรื่องผ่านศูนย์ดำรงธรรม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคสช.ได้รับการท้วงติงจากภาคประชาชนในเรื่องของเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลพยายามเร่งดำเนินการอยู่
ทั้งนี้ ในเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ คสช.ยังมีภารกิจที่สำคัญมาก 2 ประการตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ คือ การวางยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ และการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ ซึ่งทั้ง 2 ภารกิจนี้จะต้องมีกลไกกฎหมายมารองรับเพื่อกำหนดผู้รับผิดชอบ วิธีดำเนินการ และขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ โดยมีวิสัยทัศน์ คือ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาเขงเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจะต้องก้าวพ้นจากกับดัก 3 ประการ ได้แก่ กับดักรายได้ปานกลาง ความเหลื่อมล้ำแบบรวยกระจุก-จนกระจาย และการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนเนื่องจากได้เน้นไปที่ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว ยังขาดการมุ่งเน้นไปที่สังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนเป็นพิเศษคืออุตสาหกรรมที่มีศักยภาพรวมทั้ง SMEs และ OTOP ที่มีโอกาสเติบโตเป็น SMEs ซึ่ง SMEs ได้ขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนภาครัฐให้การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การดำเนินโครงการ EEC เพื่อเปิดพื้นที่ลงทุนทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมใหม่ 10 ประเภท การขยายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์เพื่อเข้าสู่ดิจิทัลฮับอาเซียน เป็นต้น
สรุปโดย พรรณเพ็ญ ว.
Opportunities
สถาบันฯ มีโอกาสในการส่งเสริมการใช้และการรับรองมาตรฐานสากลใหม่ๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการฝึกอบรม เช่น มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ มอก. 13485/ISO 13485 มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฟาร์มอัจฉริยะ ISO 11783 Tractors and machinery for agriculture and forestry – Serial control and communications data network เป็นต้น เนื่องจากรัฐบาลมีการส่งเสริมการพัฒนาภาคการผลิตและบริการบนพื้นฐานของการพัฒนานวัตกรรมและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สถาบันฯ มีโอกาสในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เนื่องจากปัจจุบัน สมอ.ได้ประกาศ มอก.วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือแพทย์แล้วจำนวน 148 มาตรฐาน (มาตรฐานทั่วไป 144 มาตรฐาน และเป็นมาตรฐานบังคับ 4 มาตรฐาน ได้แก่ มอก.30-2555 ไนทรัสออกไซด์ทางการแพทย์ มอก.531-2558 ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์เภสัชปราศจากเชื้อ มอก.539-2546 คาร์บอนไดออกไซด์การแพทย์ มอก.540-2555 ออกซิเจนทางการแพทย์ โดยการกำหนดมาตรฐานส่วนใหญ่อ้างอิงตามมาตรฐาน ISO ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศที่สากลให้การยอมรับ)
ในปี 2560 สมอ.มีมาตรฐาน มอก.ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์เป็นผลิตภัณฑ์เป้าหมาย 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ มอก. 2740 เล่ม 2-2559 อุปกรณ์ช่วยเดินใช้แขนข้างเดียวเล่ม 2 ไม้เท้าสามขาหรือมากกว่า มอก. 2207-2547รถเข็นคนไข้นั่งชนิดพับได้ มอก. 182-2545 สำลีที่ใช้ในการแพทย์ และ มอก. 1113-2551 สำลีพันก้าน สถาบันฯ มีโอกาสในการหาช่องทางสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs สาขาเครื่องมือแพทย์
Threats
การแข่งขันด้านราคาของหน่วยรับรอง (CB) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการของสถาบันฯ ซึ่งลูกค้าเป้าหมายด้านเครื่องมือแพทย์ และด้านการจัดการฟาร์มอัจฉริยะยังคงมีจำนวนไม่มากนัก
ข้อจำกัดของความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs สาขาเครื่องมือแพทย์ ซึ่งยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับค่าใช้จ่ายในด้านการรับรอง
Implication
พัฒนาบุคลากรให้รองรับการตรวจสอบตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือแพทย์ ทั้งในด้านความรู้ด้านมาตรฐานและทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
References:
http://www.masci-sis.com/data-view/event/item/2720-worldwide-uncertainty-about-us-president-trump.html
http://www.masci-sis.com/data-view/event/item/2758-เอ็มมานูเอล-มาครง-เอาชนะพรรคขวาจัด-คว้าเก้าอี้ปธน-ฝรั่งเศสสำเร็จ.html
http://www.masci-sis.com/data-view/event/item/2771-ก-อุตฯ-เผย-8-เดือน-smes-ขอรับความช่วยเหลือทะลุ-7,000-ราย-พบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินครองแชมป์-ศูนย์ฯช่วยเหลือแล้ว-5,000-ราย-ปล่อยสินเชื่อล๊อตแรกได้-261-ล้านบาท.html
http://www.masci-sis.com/data-view/event/item/2797-นโยบาย-one-belt-one-road-เส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเลที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจจีนกับเศรษฐกิจโลก.html
http://www.thaipost.net/?q=ครบ3-ปีสู่ปีที่4คสชต้องเร่งสะสางทำตามสัญญาประชาคม
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/755402
สรุปโดย พลอย ก.
การวางรากฐานการพัฒนาประเทศที่มุ่งสู่ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ตามนโยบายประเทศไทย 4.0
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อยเป็นค่อยไป
ความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของ SMEs และ OTOP
การขยายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
การส่งเสริมการใช้มาตรฐานสากลใหม่ๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตรวมทั้งนวัตกรรมที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่
