เข้าสู่ระบบ

Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

พาณิชย์เปิดโครงการพี่จูงน้อง ดันเอสเอ็มอีกว่า 50 บริษัทบุกตลาดต่างประเทศ เริ่ม พ.ค.นี้

  • STEEP Category :
    Economy
  • Event Date :
    27 เมษายน 2558
  • Created :
    27 เมษายน 2558
  • Status :
    Current
  • Submitted by :
    Sujittra dangruang
Description :

รายงานข่าวแจ้งว่า พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวโครงการพี่จูงน้องอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ 5 บริษัท ได้แก่ บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล บริษัทในกลุ่มสหพัฒน์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล๊อกซเลย์ จำกัด (มหาชน) คัดเลือกผู้ประกอบการรายย่อยที่มีความพร้อมกว่า 50 บริษัท บุกตลาดการค้า การส่งออกในต่างประเทศ อีกทั้งพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยผ่านช่องทางเครือข่ายของผู้ประกอบการรายใหญ่ พร้อมเดือนหน้าโครงการในเดือนพฤษภาคม หากประสบผลสำเร็จคาดจะขยายโครงการออกไปอย่างต่อเนื่อง 5-6 เดือน

โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้ง 5 จะจัดทำโมเดลเพื่อคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีความพร้อมในการทำตลาดต่างประเทศ เดินหน้าบุกตลาดผ่านช่องทางของบริษัทรายใหญ่ โดยเน้นต้องการให้พัฒนาเพิ่มขีดความสามารถ ลดต้นทุนการผลิต สร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความยั่งยืนทาง จะประเมินผลสำเร็จอีกครั้งในช่วงปลายปี ซึ่งคาดจะใช้ระยะเวลาในการเดินหน้าโครงการประมาณ 5-6 เดือนถึงจะประเมินได้ ทั้งนี้ หากโครงการประสบผลสำเร็จคาดว่าจะขยายเวลาโครงการเพิ่มเติม

ในโครงการดังกล่าวได้แบ่งตลาดและสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1) ตลาดจีน ประเภทสินค้าอาหาร อุปโภค และเครื่องใช้ กลุ่มที่ 2) ตลาดกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียน ประเภทสินค้าอาหารทางเล่น และเครื่องดื่ม กลุ่มที่ 3) ตลาดเวียดนามและอินโดนีเซีย ประเภทสินค้าแฟชั่น และกลุ่มที่ 4) ตลาดกัมพูชา ประเภทสินค้า แฟชั่น

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ทางบริษัทในเครือพร้อมให้การสนับสนุนเอสเอ็มอี โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและไม่ใช่อาหาร ซึ่งมี 8 บริษัทในเครือที่จะคัดเลือกเอสเอ็มอีที่มีความพร้อมในการทำตลาด ทั้งนี้แนะนำว่าควรจะจะมีการตั้งสำนักงานในต่างประเทศเพื่อประสานงาน เชื่อมโยงตลาดระหว่างเอสเอ็มอีกับบริษัท และอาจจะจัดตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อช่วยส่งเสริมเอสเอ็มอีในการพัฒนาสินค้า สร้างแบนรด์ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในการทำตลาดต่างประเทศ ขณะที่ตลาดที่น่าสนใจ คือ ตลาดจีนเพราะมองว่าอีก 5 ปี ตลาดจีนจะมีเศรษฐกิจเทียบเท่าสหรัฐฯ และตลาดอาเซียนอีก 15 ปี เศรษฐกิจเทียบเท่ายุโรปตะวันตก

นายฐาปนะ สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำตลาดของเอสเอ็มอี นอกจากจะนำนวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาสินค้าและการสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รับรู้ของตลาด ต้นทุน คุณภาพของสินค้าก็เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องการความใส่ใจ อีกทั้งเรื่องราคาสินค้าก็เป็นเรื่องสำคัญในการทำการค้า ที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงด้วย ทั้งนี้ ยังเห็นว่า 4 ขั้นตอนที่จะเสนอให้ดำเนินการ คือ 1.การเลือกผู้ประกอบการ 2.แบ่งประเภทผู้ประกอบการ ให้ความรู้ 3.เสริมสร้างความพร้อมและการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี 4.บุกตลาดซึ่งเป็นการทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มเซ็นทรัลมีการขยายการลงทุนศูนย์การค้าไปในต่างประเทศ ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งพร้อมที่นำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการเข้าไปเรียนรู้ ทำตลาดในต่างประเทศ โดยจะนำสินค้าเข้าไปทดลองทำตลาด

นายธงชัย ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล๊อกเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทล๊อกเล่ย์ได้บันทึกข้อตกลงทางการค้ากับบริษัทในต่างประเทศ ไว้หลายโครงการโดยเฉพาะในประเทศ จีน ฮ่องกง ซึ่งในบริษัทดังมีสาขากว่า 3,000 สาขาในจีน และฮ่องกง อีกทั้ง บริษัทยังมีโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมในการทำตลาดการค้า

นายทนงชัย จงปิยวรางค์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารุริกจต่างประเทศ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มองผู้ประกอบการไว้ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่มีความพร้อมที่พร้อมจะเดินหน้าทำตลาดได้ทันที ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนในการทำตลาดการค้าในต่างประเทศ เช่น กลุ่มสินค้าเครื่องหนัง รองเท้า และกลุ่มแฟชั่น และกลุ่มที่ 2.กลุ่มที่ไม่พร้อม กลุ่มนี้ ทางบริษัทเองก็จะพยายามแนะนำตลาดอื่นให้กับเอสเอ็มอีรายนั้น เพื่อทำตลาดให้ตรงกลุ่มและเป้าเหมายของลูกค้ามากขึ้น