4. บทบาทที่เพิ่มขึ้นของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและ3-D Printing ในสังคมและอุตสาหกรรมรวมทั้งในชีวิตประจำวัน นับเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น พริ้นเตอร์สามมิติที่ใช้ในด้านการสงคราม ด้านการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ เครื่องบินไอพ่น การก่อสร้างอาคารบ้านเรือนและสินค้าพร้อมใช้ต่างๆ เป็นต้น
1. แนวโน้มการผลิตของโรงงานเล็กๆ ในท้องถิ่นแทนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรืออาจมีการผลิตทั้งสองประเภทซึ่งจะมีผลต่อวิธีการขายและการนำเข้า-ส่งออกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายปลีก การขายผ่านตัวแทนจำหน่าย การขายออนไลน์และการขายตรง
2. แนวโน้มอุตสาหกรรมในภาคส่วนต่างๆ จะได้รับผลกระทบทั้งผลดีและผลเสียจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรม เช่น การจ้างงานมนุษย์ที่ลดลง การเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
3. แนวโน้มอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ จะได้รับผลกระทบจาก 3-D Printing ในหลายแง่มุม เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอโดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมจะถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย ส่งผลถึงความจำเป็นในการบัญญัติกฎหมายเพื่อปกป้องลิขสิทธิ์ ด้านการทหาร อาจมีการผลิตอาวุธได้โดยง่าย ส่งผลถึงการบัญญัติกฎหมายให้ครอบคลุมในด้านความปลอดภัย เป็นต้น
4. แนวโน้มของราคาสินค้าที่ลดลงจากการสั่งพิมพ์สินค้าต่างๆ ได้เองของผู้บริโภค รวมทั้งผู้ผลิตเองก็สามารถลดต้นทุนและมีความสามารถในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมก็อาจสูญเสียลูกค้าที่สั่งพิมพ์สินค้าต่างๆ ได้เองด้วย
5. แนวโน้มที่ดีและผลเสียของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคือ ผู้บริโภคกลุ่มที่มีความสามารถสูงในการจับจ่ายใช้สอยจะได้รับประโยชน์มากกว่าผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เช่น การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ การใช้หุ่นยนต์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัย เป็นต้น