รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนายพรเพชร วิชิชตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาวาระร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย ในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 ? 2565 คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
โดย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ชี้แจงว่า ร่างบันทึกดังกล่าวมี 2 เส้นทาง คือ โครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทางประมาณ 734 กิโลเมตร และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ซึ่งโครงการนี้จะใช้พื้นที่ ใช้ทรัพยากร ที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง กระทบเศรษฐกิจ เข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 มาตรา 23 ที่ระบุว่าต้องผ่านความเห็นชอบจาก สนช. รัฐบาลจึงเสนอต่อ สนช.เพื่อให้ความเห็นชอบ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ด้วยคะแนน 187 เสียง พล.อ.อ.ประจิน ชี้แจงตอนท้ายว่า ทั้งสองฝ่ายจะใช้ความร่วมมือแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี โดยจีนจะรับผิดชอบก่อสร้างและพัฒนาระบบรถไฟ ส่วนไทยจะให้จีนเข้ามีส่วนร่วมในขั้นตอนเตรียมโครงการ ต่อมา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม แจ้งต่อที่ประชุมว่า สนช. ขอเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ออกไปเป็นวันที่ 18 ธ.ค. เนื่องจากมีเนื้อหาสำคัญที่ต้องพิจารณาละเอียดรอบคอบ อีกทั้งระเบียบวาระการประชุม สนช. วันที่ 4 ธ.ค. มีค่อนข้างมาก ซึ่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. หารือกับ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง และเห็นชอบร่วมกันที่จะเลื่อนพิจารณาออกไปก่อน