อังกฤษเตรียมประกาศห้ามผลิตรถยนต์และรถตู้ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินในประเทศตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ รัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ จะตั้งกองทุนมูลค่า 255 ล้านปอนด์ หรือราว 11,100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานต่าง ๆ ในการแก้ปัญหามลพิษที่ปล่อยออกมาจากยานพาหนะที่ใช้น้ำมันดีเซล โดยกองทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณ 3,000 ล้านปอนด์ หรือราว 131,000 ล้านบาทในการปรับปรุงคุณภาพอากาศ
กรุงลอนดอนจะนำระบบการจัดเก็บภาษีที่เรียกว่า ที-ชาร์จ (T-Charge) ในอัตรา10 ปอนด์ (440 บาท) ต่อวัน มาใช้กับรถเครื่องยนต์ดีเซลและรถที่ใช้น้ำมันทุกชนิด ซึ่งจดทะเบียนก่อนหน้าปี 2006 และไม่ได้มาตรฐาน "ยูโร โฟร์" (Euro-4) ส่วนวิธีเรียกเก็บจะมีลักษณะเหมือนกับภาษีการใช้รถในชั่วโมงที่การจราจรแออัด หรือ congestion charge ที่จัดเก็บอยู่แล้ว 11.50 ปอนด์ (508 บาท) หมายความว่า ผู้ใช้รถบางรายอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็น 21.50 ปอนด์ (950 บาท) ต่อวัน ในการขับรถในย่านใจกลางกรุงลอนดอน ระหว่าง 7:00-18:00 น. วันจันทร์-ศุกร์
นายซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ระบุว่าการทำเช่นนี้ก็เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมืองหลวง โดยคำสั่งนี้กำหนดออกมาไม่กี่เดือนหลังจากศาลสูงสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่า รัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบการควบคุมไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ของสหภาพยุโรป ต้นตอที่ทำให้เกิดไนโตรเจนไดออกไซด์ ก็คือโรงงานและรถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซล สิ่งนี้ยังเชื่อมโยงไปถึงความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจด้วย