การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2558 ได้มีมติเห็นชอบโครงการลงทุนชุดใหญ่ของส่วนราชการต่างๆ วงเงินร่วม 2.5 หมื่นล้าน โดยให้ลงนามในสัญญาผูกพันภายในเดือน มิ.ย. นี้ มติดังกล่าวได้อนุมัติตามที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เสนอให้พิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการที่มีงบประมาณตั้งแต่ ข้อเสนอของ คตร. ดังกล่าวมาจากกรณีที่ ครม. เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ได้มีมติให้ทุกส่วนราชการ รวบรวมโครงการที่ไม่สามารถเริ่มงานหรือก่อหนี้ได้ทัน ต้องเสนอรัฐมนตรีที่รับผิดชอบพิจารณาเหตุผลความจำเป็นว่า จะทำโครงการต่อหรือปรับแผนงบประมาณไปทำโครงการอื่นที่มีความจำเป็นแทนภายในเดือน มิ.ย.58 และให้ลงนามผูกพันงบประมาณภายในเดือน ก.ค.58 ซึ่งในภาพรวมมีโครงการที่เข้าข่ายดังกล่าวรวม วงเงินรวมกว่า 76,462 ล้านบาท แยกเป็นโครงการที่มีงบประมาณต่ำกว่า 50 ล้านบาท เป็นวงเงิน 46,017.945 ล้านบาท และโครงการที่มีงบประมาณตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 188 โครงการ จาก 25 หน่วยงาน วงเงินรวม 30,444.055 ล้านบาท
ขณะที่โครงการจากฝ่ายเศรษฐกิจ มี 21 โครงการ วงเงินรวม 2,352.03 ล้านบาท เป็นโครงการของกระทรวงการคลัง 2 โครงการ มูลค่ารวม 142.04 ล้านบาท ได้แก่ งานก่อสร้างด่านศุลกากรจังหวัดนครพนมแห่งใหม่ 67.67 ล้านบาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบสถิติสินค้าและคลังข้อมูล74.37 ล้านบาท กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา 1 โครงการ 100 ล้านบาท กระทรวงเกษตรฯ 4 โครงการ 295.83 ล้านบาท กระทรวงวิทยาศาสตร์ 1 โครงการ 73.9 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ 5 โครงการ มูลค่ารวม 359.10 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข 3 โครงการ มูลค่ารวม 213.03 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจคือการเคหะแห่งชาติ 222.48 ล้านบาท