Log in

Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

บางจากกางแผนบุกอาเซียน "ผลิตไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพ"

  • STEEP Category :
    Environment
  • Event Date :
    05 June 2015
  • Created :
    18 June 2015
  • Status :
    Current
  • Submitted by :
    Parichat Rattanapoom
Description :

บางจากกางแผนบุกอาเซียน ผลิตไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพ
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บอกว่า บางจากฯ มองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ เพราะถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของชาติจึงได้เริ่มแสวงหาแหล่งพลังงานจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยการขยายแผนการลงทุนด้านการสำรวจและผลิตรวมทั้งธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลัง งานทดแทนหลากรูปแบบ โดยเขียนเป็นแผนลงทุนในช่วง 6 ปี คือตั้งแต่ปี 58 ไปจนถึงปี 63 ตั้งวง เงินลงทุนไว้เกือบ 50,000 ล้านบาท ทั้งพลังงานทดแทนจำนวน 26,000 ล้านบาทและสำหรับการสำรวจอีกกว่า 20,000 ล้านบาท ล่าสุด! ได้มองเห็นพลังงานรูปแบบใหม่ คือ "พลังงานความร้อนจากใต้พิภพ" ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า เพราะเป็นพลังงานสะอาด ที่สำคัญที่สุดคือ..เป็นแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมดจากโลก แถมยังมีข้อดี เพราะมีต้นทุนต่ำเป็นอันดับสอง รองจากพลังงานน้ำ ดังนั้น...เพื่อให้เห็นทิศทางการตัดสินใจที่ชัดเจน คณะผู้บริหารของบางจากฯ จึงได้เดินทางพร้อมกับสื่อมวลชน ไปดูงานการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อให้สัมผัสถึงความจริงทั้งหมด เพราะที่นิวซีแลนด์นี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศอันดับหนึ่งของโลกที่ดึงเอาพลังงานความร้อนจากใต้ดินมาผลิตไฟฟ้าใช้ในประเทศ ที่มีมากถึง 5 โรงไฟฟ้าทีเดียว โดยเริ่มต้นจาก "บริษัท คอนแทร็ค เอนเนอยี่" เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ทันสมัยและเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อันดับสองของนิวซีแลนด์พบว่า น่าสนใจเข้าไปลงทุนในพลังงานรูปแบบนี้ เพราะเป็นพลังงานสะอาด มีอัตราการปล่อยมลพิษต่ำมากรวมทั้งต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยยังต่ำกว่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติและยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานโดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีอายุมากถึง 60 ปี เครื่องจักรที่ผลิตไฟฟ้ายังใช้งานได้เต็มกำลังซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก อย่างไรก็ตาม ทางเลือกของพลังความร้อนใต้พิภพนี้แม้จะดีแม้จะคุ้มค่าในทุกด้าน แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วยเช่นกัน เพราะวงเงินที่ลงทุนอาจต้องใช้สูงมาก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งบางจากฯได้เตรียมการไว้ว่า อาจ "นำร่อง" ลงทุนพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศแถบภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนิเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ภูมิประเทศตั้งอยู่ตามแนวรอยแยกของแผ่นเปลือกโลก สามารถนำพลังงานความร้อนจากใต้โลกที่มีความร้อนสูงมาผลิตเป็นไฟฟ้าได้และเมื่อผลิตได้ก็ขายไฟฟ้าให้กับประเทศเหล่านั้น ส่วนในประเทศไทยเอง มีแหล่งพลังงานความร้อนดังกล่าวเพียงบางแห่งเช่น ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และที่จังหวัดระนอง แต่เป็นพลังงานความร้อนที่ไม่สูงมากผลิตได้ไม่ถึงเมกะวัตต์แตกต่างจากที่นิวซีแลนด์ ที่ผลิตไฟฟ้าได้ถึงหลัก 100 เมกะวัตต์ ดังนั้นอาจสร้างได้แค่โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งเวลานี้ได้เจรจากับบริษัทพันธมิตรในประเทศอิตาลีเพื่อร่วมกันศึกษาเทคโนโลยีกังหันผลิตไฟฟ้า ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาดเล็ก ก่อนนำมาต่อยอดพัฒนาใช้ให้เหมาะกับประเทศไทยต่อไป ขณะที่พลังงานด้านอื่น ๆ ที่เป็นพลัง งานสะอาด หรือพลังงานสีเขียว ได้เตรียมวงเงินลงทุนไว้กว่า 50% ของงบลงทุนทั้งหมด โดยช่วง 6 ปีนี้มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จากที่มี 118 เมกะวัตต์เป็น 500 เมกะวัตต์ และมีขยายการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้นโดยในปีนี้มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้เป็น 200-250 เมกะวัตต์ ด้วยการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น เข้าถือหุ้นถึง 70% ในโครงการโซลาร์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่นและศึกษาโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะ ตามนโยบายของรัฐบาล หากมีความชัดเจนมากขึ้นบางจากฯ ก็พร้อมเข้าไปลงทุน สำหรับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บางจากฯ พร้อมขยายธุรกิจพลังงานให้ครอบคลุมถึงต้นน้ำ และหวังว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทถึง 20-25% จากรายได้ทั้งหมด โดยได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ 82% ในบริษัท นิโด้ ปิโตรเลียม ซึ่งทำธุรกิจขุดเจาะและสำรวจปิโตรเลียมจากประเทศออสเตรเลียและเป็นเจ้าของแหล่งสัมปทานกาล็อค ในประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนลุยสำรวจหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากแหล่งพลังงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ 'ชัยวัฒน์" ทิ้งท้ายว่า หลาย ๆ โครงการที่บางจากฯ สนใจลงทุน ได้ยึดเฉพาะพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรกเพราะช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นระยะยาว ส่วนเป้าหมายสำคัญที่สุด คือ การพร้อมเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ช่วยภาครัฐสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศไทยให้มีไว้ใช้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป!. "

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/325882