โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมที่จะลงทุนสร้างโรงงานอีกครั้ง โดยจัดสรรงบเพื่อการนี้ไว้ประมาณ 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 4.12 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ไม่มีการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ๆ มาเป็นเวลา 3 ปี แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับโครงการนี้เปิดเผยว่า โรงงานแห่งใหม่จะมีขึ้นที่ประเทศเม็กซิโกและจีน และน่าจะพร้อมเดินเครื่องผลิตประมาณปี 2561 หรือ 2562 ซึ่งจะทำให้โตโยต้าสามารถเพิ่มกำลังผลิตรถยนต์อีกหลายแสนคันต่อปี
เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล อ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนามว่า มีความคาดหวังว่า บริษัทโตโยต้าจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ก่อนสิ้นสุดเดือนเมษายน โตโยต้าซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในโลก กำลังเปลี่ยนเกียร์เข้าสู่โหมดเดินหน้าลงทุนสร้างโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งหลังจากที่ระงับการสร้างโรงงานใหม่มาเป็นเวลาถึง 3 ปีเพื่อปรับปรุงสายการผลิตครั้งใหญ่ตามนโยบายของนายอะคิโอะ โทโยดะ ประธานบริษัท
ข่าวระบุว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยานยนต์และอุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถลดขนาดของโรงงานที่จะสร้างขึ้นในอนาคตลงได้ ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ๆก็จะช่วยให้โรงงานเดิมที่มีอยู่สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทเปิดเผยว่า สามารถลดการลงทุนเบื้องต้นสำหรับการสร้างโรงงานแห่งใหม่ได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับข้อมูลในปี 2551 "เรากำลังจะได้เห็นก้าวใหม่ของโรงงานยุคใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป" ผู้บริหารของโตโยต้ากล่าวต่อผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า บริษัทจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อปรับปรุงให้โรงงานมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้นแทนที่จะมุ่งเน้นแต่ผลิตเพื่อให้ได้ประมาณมากๆ
ก่อนหน้านี้ช่วงต้นจนถึงกลางทศวรรษ 2000 โตโยต้ารุกสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ๆทั่วโลก ทำให้มีกำลังผลิตล้นเกิน อีกทั้งยังมีต้นทุนคงที่ในเกณฑ์สูงหลังเกิดเหตุวิกฤติการเงินโลก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายนี้หยุดลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่มาตั้งแต่ปี 2555 หลังจากที่เปิดโรงงานล่าสุดในเวลานั้นที่ประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทเรียกว่าเป็นการ "หยุดชั่วคราวโดยตั้งใจ" หรือ willful pause อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนั้น คู่แข่งของโตโยต้าบางราย อาทิ โฟล์คสวาเกน ได้อาศัยช่วงจังหวะนี้ขยายกำลังการผลิตเพื่อป้อนความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
แหล่งข่าวเปิดเผยเกี่ยวกับโลเกชันการสร้างโรงงานแห่งใหม่ของโตโยต้าว่า เม็กซิโกเป็นประเทศที่พัฒนาตัวเองกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สามารถผลิตส่งออกมายังตลาดสหรัฐอเมริกา ขณะที่จีนก็เป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่แล้ว "ในตลาดจีน บริษัทรถยุโรปและสหรัฐฯ เป็นผู้นำในตลาด ขณะที่โตโยต้าเองมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5-6% แต่ก็เน้นเรื่องของคุณภาพมากกว่าเร่งสร้างการเติบโตของยอดขาย" นายเท็ตสุโอะ โอกาวะ ผู้บริหารของโตโยต้าที่ดูแลธุรกิจในประเทศจีนกล่าว
สำหรับตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่นั้น คาดว่าในปีนี้จะยังมีการเติบโตต่อไปแม้จะในอัตราที่ชะลอลงบ้างก็ตาม สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลน่าจะเพิ่มขึ้นราว 8% เป็น 21.3 ล้านคันในปี 2558 ขณะที่ในปี 2557 และ 2556 ยอดขายมีการเติบโต 9.9% และ 16% ตามลำดับ โตโยต้าเปิดเผยในปีที่ผ่านมาว่า มีเป้าหมายจะเพิ่มยอดขาย 2 เท่าเป็น 2 ล้านคันโดยประมาณ
ในส่วนของการปรับปรุงสายการผลิตครั้งใหญ่ด้วยเทคโนโลยีนั้น รายงานข่าวระบุว่า โตโยต้าสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อให้เข้ากับความต้องการของรถแต่ละรุ่น นอกจากนี้ ยังมีเครื่องอัดและเครื่องเชื่อมด้วยเลเซอร์ซึ่งช่วยให้สายการผลิตสั้นลง เป็นที่คาดหมายว่าอุปกรณ์ใหม่นี้จะถูกนำมาติดตั้งในโรงงานสร้างใหม่และโรงงานที่โตโยต้ามีอยู่แล้วบางแห่ง ผู้บริหารของโตโยต้ากล่าวว่า จากการทดลองติดตั้งที่โรงงานในเมืองเมียวจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโตโยต้าใช้เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบ พบว่า บริษัทสามารถย่นระยะทางของสายการผลิตจาก 27 เมตรเหลือเพียง 12 เมตร
ทั้งนี้โตโยต้ามีแผนผลิตรถยนต์รวม 10.21 ล้านคันในปี 2558 นี้ และตั้งเป้ายอดขาย 10.15 ล้านคัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวรวมยอดผลิตและยอดขายของบริษัทในเครืออย่างไดฮัทสุ มอเตอร์ และฮิโน มอเตอร์ส ด้วย รายงานระบุว่า โตโยต้าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่สามารถผลิตและจำหน่ายรถมากกว่า 10 ล้านคันต่อปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าโฟล์คสวาเกนซึ่งรุกทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นมากอาจจะทำสถิติแซงหน้าโตโยต้าได้ในเร็วๆ นี้
