นายทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์ ประธานกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน ระบุภายหลังสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. เห็นชอบรายงานพิจารณาศึกษาโครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี หรือระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์สำหรับบ้านและอาคาร ว่า ถือเป็นผลงานปฏิรูปชิ้นแรกของคณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ประชาชนสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ได้เอง และลดภาระการหาพลังงาน รวมทั้งสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปหารายได้ให้กับครัวเรือนได้
โดยจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบรวมทั้งให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานออกกฎระเบียบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของพลังงานผลิตใช้เองและนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตออกไปจำหน่ายเป็นรายได้แก่ครัวเรือน
ทั้งนี้คาดว่าอีก5ปีข้างหน้าจะมีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า1แสนหลังคาเรือน คิดเป็นค่าไฟฟ้าไม่ต่ำ 5,000 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าการติดตั้งที่ โรงเรียน โรงงาน สถานที่ราชการ และออฟฟิศ รวมทั้งตั้งเป้าใน 20 ปีข้างหน้าจะมีพลังงานแสงอาทิตย์จากการติดตั้งโซลาร์รูฟไม่ต่ำกว่า 10,000 เมกะวัตต์ และจะลดการสร้างโรงงานไฟฟ้าของรัฐบาล โดยคิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ทั้งยังลดภาวะโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก ซึ่งประเทศไทยจะเป็นผู้นำการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และประเทศสีเขียวในภูมิภาคอาเซียน