บริษัทวิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง ในสหราชอาณาจักร ผู้คิคค้นวิจัยเทคโนโลยีการแข่งรถสูตรหนึ่งให้กับทีมวิลเลียมส์ ฟอร์มูลาวัน ประดิษฐ์แคปซูลขนส่งทารกที่ป่วยหนัก โดยใช้เทคนิคเดียวกับการสร้างรถแข่งฟอร์มูลาวัน ซึ่งจะช่วยให้เคลื่อนย้ายทารกที่ป่วยในขั้นวิกฤตได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีโอกาสรอดชีวิตเพิ่มสูงขึ้น
แคปซูลขนส่งทารกดังกล่าวมีชื่อว่า "เบบี้พ็อด 20" (Babypod 20) ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งมีน้ำหนักเบาเพียง 9 กิโลกรัม แต่มีความทนทานแข็งแกร่ง โดยสามารถใช้กับการเคลื่อนย้ายทารกทางรถพยาบาล เฮลิคอปเตอร์ หรือรถยนต์ธรรมดาก็ได้ โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจากภายนอก
สกอตแลนด์เริ่มโครงการแจก "เบบี้บ็อกซ์"ตามอย่างฟินแลนด์
'โรงงานทารก' ในฟิลิปปินส์
"เบบี้พ็อด 20" มีฝาปิดใสเลื่อนได้ สามารถรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อทารกให้คงที่ตลอดเวลา ภายในบุด้วยวัสดุนุ่มหนาเพื่อป้องกันทารกจากแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน โครงสร้างภายนอกยังทนทานต่อแรงกระแทกถึง 20G ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพาหนะที่เคลื่อนย้ายแคปซูลนี้อยู่ด้วย
ทางบริษัทวิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง ได้พัฒนาแคปซูลขนส่งทารกนี้ร่วมกับบริษัท AHT ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้เคลื่อนย้ายทารกมาก่อนหน้านี้หลายปี เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายทารกป่วยซึ่งปกติต้องอยู่ในตู้อบที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ทั้งยากต่อการหาพาหนะขนส่งที่เหมาะสม
"เบบี้พ็อด 20" มีสนนราคาราว 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 220,000 บาท) โดยปัจจุบันเริ่มมีการนำไปใช้งานที่โรงพยาบาลเด็กเกรท ออร์มอนด์ สตรีท ของกรุงลอนดอนแล้ว
เมื่อปี 2010 บริษัทวิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง ได้ประกาศว่าจะนำเทคโนโลยีที่คิดค้นเพื่อรถแข่งฟอร์มูลาวัน มาประยุกต์ใช้งานในด้านต่างๆ ที่กว้างขวางหลากหลายขึ้นไปกว่าการประลองความเร็ว เนื่องจากในแต่ละปีได้ลงทุนไปเพื่อการนี้เป็นเงินกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) เพียงเพื่อคว้าชัยชนะให้กับทีมแข่งรถของตนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลักการคิดค้นวัสดุน้ำหนักเบาและการออกแบบรูปทรงที่มีประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics )ที่ใช้กับรถแข่งฟอร์มูลาวันนั้น สามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมหรือโครงการของภาคธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่โดยมากได้นำไปประยุกต์ใช้กับการออกแบบรถยนต์ เช่น ซูเปอร์คาร์รุ่นไฮบริดของจากัวร์ หรือรถสปอร์ตไฟฟ้า RapidE ของแอสตัน มาร์ติน
รายได้จากการนำเทคโนโลยีฟอร์มูลาวันไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำเงินให้วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริงราว 37 ล้านปอนด์ (1,630 ล้านบาท )ในปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้จากส่วนนี้จะนำกลับไปเป็นเงินทุนเพื่อสนับสนุนทีมแข่งรถ วิลเลียมส์ ฟอร์มูลาวัน ต่อไป